ความสำคัญของวิตามินกับการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ
วิตามิน เป็นสารอาหารมีความจำเป็นชนิดที่ขาดไม่ได้ แต่ต้องการในปริมาณที่น้อยๆ เพราะเป็นองค์ประกอบในเอนไซม์และโคเอนไซม์ที่จำเป็นต่อระบบการเจริญเติบโต ตลอดจนกระบวนการเสริมสร้างสุขภาพของกุ้งโดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้งระบบพัฒนา ปล่อยหนาแน่นมาก อาหารธรรมชาติมีน้อย เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมบ่อย ๆ
กุ้งเป็นสัตว์ที่สังเคราะห์วิตามินบางชนิดเองไม่ได้ หรือถ้าได้ก็ไม่เพียงพอ จึงต้องมีการเสริมวิตามินลงไปในอาหารเม็ดสำเร็จรูป เพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้กุ้งอยากกินอาหาร ช่วยให้กุ้งทำให้กุ้งโตไว มีอัตราการแลกเนื้อต่ำ และมีอัตราการรอดสูง
ทำไมเราต้องเสริมวิตามินลงในอาหารเพิ่มเติม?
- เนื่องจากกุ้งกินอาหารได้ช้า ดังนั้นอาหารเม็ดที่แช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานหลาย ๆ ชั่วโมง อาจมีวิตามินบางส่วนที่ละลายน้ำออกมา อาจทำให้วิตามินหลงเหลือในอาหารเม็ดน้อยเกินไป โดยเฉพาะวิตามินชนิดละลายน้ำ การเสริมให้มีความเข้มข้นสูงขึ้นก็เพื่อให้แน่ใจได้ว่าระดับวิตามินที่ยอมรับได้ยังคงมีอยู่ในเม็ดอาหาร
- วิตามินถูกทำลายไปขณะอยู่ในขั้นตอนของการผลิตอาหารและการจัดเก็บอาหาร ข้อนี้เป็นความจริงทีเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิตามินซี ซึ่งจะเกิดจากการ oxidation กับไขมันในอาหารเม็ด
- วิตามินที่อยู่ในส่วนผสมของอาหารมีปริมาณไม่คงที่ ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมากต่อการตรวจหาวิตามินแต่ละชนิดและแต่ละชุดการผลิตของอาหารดังนั้นการเสริมความเข้มข้นให้สูงเกินพอจึงเป็นวิธีที่ง่ายกว่า
- ส่วนประกอบอาหารต่าง ๆ อาจมีตัวยับยั้งคุณค่าสารอาหาร ซึ่งไปลดหรือแทรกแซงการทำหน้าที่ของวิตามิน เช่น ผลการ oxidation ของไขมันจะทำให้เพิ่มความต้องการในวิตามินอีมากขึ้น
วิตามินแบ่งได้ 2 ประเภท ตามความสามารถในการละลาย
ตารางแสดงความสำคัญของวิตามิน
กลุ่มละลายในไขมัน |
หน้าที่ |
อาการขาด |
วิตามินเอ มีลักษณะเป็นผลึกสีเหลืองอ่อน |
ควบคุมการทำงานของเยื่อบุผิวต่าง ๆ เช่น ท่อทางเดินหายใจและท่อทางเดินอาหาร ช่วยในการมองเห็น การสืบพันธุ์ เสริมสร้างการเจริญเติบโต ช่วยในการสร้างเปลือก ควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความต้านทานเชื้อก่อให้เกิดโรค ช่วยให้กุ้งมีสีสวยขึ้น |
|
วิตามินดี มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว หรือเหลืองอ่อน |
ช่วยในการดูดซึมแคลเซี่ยม และฟอสฟอรัสในลำไส้ให้เป็นไปอย่างปกติ มีความสำคัญต่อขบวนการสร้างเปลือก ทำให้กุ้งลอกคราบได้สมบูรณ์และเปลือกแข็งเร็ว |
|
วิตามินอี มีลักษณะเป็นน้ำมันข้นสีเหลือง |
ช่วยในการสังเคราะห์วิตามินซี เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร ช่วยให้การทำงานของวิตามินเอและดีเพิ่มขึ้น ช่วยให้เซลล์ตับแข็งแรงและลดการสะสมไขมันในตับ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ร่วมกับซิลิเนียม และวิตามินซีในการควบคุมการสืบพันธุ์ |
|
วิตามินเค มีลักษณะเป็นสารสีเหลือง |
มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด แต่ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของกุ้ง |
|
กลุ่มละลายในน้ำ |
หน้าที่ |
อาการขาด |
วิตามินบี 1 (Thiamine) มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีกลิ่นคล้ายยีสต์ และรสเค็ม |
ช่วยให้การใช้คาร์โบไฮเดรตในร่างกายมีประสิทธิภาพ ช่วยในการทำงานของระบบประสาท กระตุ้นความอยากกินอาหาร ทำให้กินอาหารได้มากขึ้นช่วยในการย่อยอาหารโตเร็ว |
|
วิตามินบี 2 (Riboflavin) มีลักษณะเป็นผลึกสีน้ำตาลปนเหลือง |
มีความสำคัญในการเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง และไขมันกุ้ง ทำให้การใช้พลังงานของกุ้งเป็นไปตามปกติ ช่วยให้กุ้งกินอาหารเพิ่มขึ้น โตเร็วและลดอัตราการตายของกุ้ง |
|
วิตามินบี 6 (Pyridoxamine) มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว หรือ ผงละเอียด |
มีหน้าที่สำคัญที่สุดคือการสร้างกรดอะมิโน และจำเป็นต่อการสร้างกรดไขมันที่จำเป็นแก่ร่างกายกุ้ง และฮอร์โมนในระบบประสาท ช่วยให้กุ้งโตเร็วและลอกคราบได้ดี |
|
วิตามินบี 12 (Cyanocobamin) มีลักษณะเป็นผลึกสีแดงส้ม |
มีหน้าที่ในการสังเคราะห์กรดอะมิโน มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือด สำคัญต่อการใช้และสร้างโปรตีน และ กรดไขมันของตัวกุ้ง ช่วยให้กุ้งกินอาหารมากขึ้นและโตเร็ว |
|
กรดแพนโททีนิค มีลักษณะเป็นน้ำมันข้นสีเหลือง |
มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญพลังงานจากโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และช่วยในการสังเคราะห์คลอ-เรสเตอรอล และฮอร์โมนบางชนิด ป้องกันโรคเกี่ยวกับเหงือกช่วยให้โตเร็วและอัตรารอดสูง |
|
ไนอะซีน มีลักษณะเป็นผลึกรูปสีขาว |
มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการเมตาบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต และไขมัน ช่วยให้กุ้งกินอาหารได้มากขึ้นโตเร็ว มีอัตราการแลกเนื้อที่ดี |
|
ไบโอติน มีลักษณะเป็นผลึกรูปเข็มยาว สีขาว |
มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการเผาผลาญพลังงาน มีบทบาทสำคัญในการสร้างกรดไขมัน สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในโรคกุ้ง |
|
กรดโฟลิก |
มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดให้เป็นปกติ เป็นสารที่จำเป็นในการสร้างโครงสร้างกรดอะมิโน ส่งผลให้กุ้งกินอาหารมากขึ้น โตเร็ว |
|
อิโนซิท็อล |
เป็นองค์ประกอบในเนื้อเยื่อเซลล์ ทำหน้าที่ร่วมกันกับโคลีนในการควบคุมระดับไขมันและคลอเรสเตอรอลในตัวกุ้ง เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร โตเร็วและอัตราการรอดสูง |
|
โคลีน |
มีความสำคัญต่อขบวนการเมตาบอลิซึมของไขมันอย่างมาก เพราะโคลีนจะช่วยลดปริมาณการสะสมของไขมันในตับได้ มีบทบาทต่อการทำงานของระบบประสาทในการค้นหาอาหาร จึงช่วยให้กุ้งมีความอยากกินอาหาร โตเร็ว และการย่อยอาหารทำได้ดีขึ้น |
|
วิตามิน ซี |
มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสร้าง-เนื้อเยื่อ ช่วยทำให้เปลือกแข็งแรง แผลหายเร็วขึ้น ผนังเส้นเลือดแข็งแรง มีบทบาทในการสร้างฮอร์โมนของการลอกคราบ ลดความเครียด สร้างภูมิต้านทาน กระตุ้นการกินอาหาร |
|